หน้าฝนในเชียงใหม่อาจไม่ใช่ฤดูยอดฮิตของนักท่องเที่ยว แต่สำหรับใครที่ชอบความเงียบ สงบ และบรรยากาศชุ่มชื่นแบบไม่เร่งรีบ ช่วงนี้ถือว่าเหมาะมาก ถนนโล่ง อากาศเย็น ต้นไม้เขียวสด สายน้ำไหลแรง และหมอกบางๆ ที่ลอยอยู่ตามดอยต่างๆ ยิ่งทำให้ทุกที่ดูโรแมนติกขึ้นแบบไม่ต้องปรุงแต่ง ไม่ว่าจะเป็นหมู่บ้านกลางป่า น้ำตกริมเขา หรือคาเฟ่ริมนา ทุกมุมเชียงใหม่ในหน้าฝนมีเสน่ห์เฉพาะตัวที่หาไม่ได้จากฤดูไหน ถ้าคุณอยากหลีกหนีความวุ่นวายของเมือง แล้วออกไปสูดอากาศดีๆ ท่ามกลางธรรมชาติ ลองเปิดใจให้เชียงใหม่ฤดูฝนดูสักครั้ง แล้วคุณอาจจะตกหลุมรักความเปียกแบบพอดีๆ ที่อบอุ่นอย่างไม่ทันตั้งตัวก็ได้
ที่เที่ยวเชียงใหม่
บ้านพักชิโข่ ป่าบงเปียง
บ้านพักชิโข่ ตั้งอยู่ท่ามกลางนาขั้นบันไดของป่าบงเปียง ที่ที่คุณจะตื่นมาแล้วพบกับหมอกลอยผ่านหน้าต่าง เสียงลมผ่านยอดข้าว และภูเขาเขียวขจีที่ทอดยาวสุดสายตา ความพิเศษของที่นี่คือความเป็นธรรมชาติแบบดิบๆ ไม่มีแอร์ ไม่มีทีวี ไม่มีเสียงรบกวนจากถนน แต่มีอากาศเย็น ลมหายใจสดชื่น และความเงียบสงบที่หาไม่ได้ในเมือง ทุกหลังสร้างจากไม้ไผ่ มีระเบียงนั่งเล่นหน้าบ้านไว้ดูวิวหรือดื่มกาแฟตอนเช้า บางวันมีทะเลหมอก บางวันมีพระอาทิตย์ตกกลางทุ่ง ทุกอย่างเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ไม่ต้องจัดฉาก ที่นี่เหมาะกับคนที่อยาก “หายไปพักใจ” มากกว่ามาเที่ยวถ่ายรูป
ที่มารูป: facebook
แม้อาหารที่นี่จะไม่หรูหรา แต่กลับกลายเป็นจุดเด่นที่ทำให้บ้านพักชิโข่แตกต่าง กับข้าวบ้านๆ อย่างไข่เจียว ผักลวก น้ำพริก หรือแกงพื้นเมือง ถูกเสิร์ฟพร้อมข้าวสวยร้อนๆ ทุกมื้อทำเองจากวัตถุดิบท้องถิ่น กินง่าย แต่ให้ความรู้สึกอบอุ่นแบบที่คุณไม่คาดคิด ยิ่งได้นั่งกินข้าวบนระเบียงไม้ ล้อมวงกับเพื่อนหรือครอบครัว พร้อมชมวิวทุ่งนาเบื้องหน้า มันคือมื้อที่ไม่มีในร้านอาหารใดๆ ในเมือง ความสุขแบบนี้ไม่ต้องปรุงเยอะ ไม่ต้องถ่ายรูปให้ใครดู แค่ได้กินข้าวดีๆ กับบรรยากาศดีๆ ก็เหมือนได้เติมพลังให้ชีวิตแบบไม่ต้องใช้คำพูดเลยสักคำ
ที่มารูป: facebook
บ้านพักชิโข่ไม่ได้ขายความสะดวกสบายแบบโรงแรมหรู แต่ขายประสบการณ์ที่อยู่กับธรรมชาติได้จริงๆ คุณจะได้นั่งมองนาข้าว มองฟ้าเปลี่ยนสี แล้วเผลอยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว กลางคืนมีดาวเต็มฟ้า เสียงธรรมชาติคือเสียงกล่อมให้หลับสนิท เช้ามาก็ได้ตื่นกับความสดชื่นที่แท้จริง ใครที่เหนื่อยจากเมือง เหนื่อยจากชีวิตที่รีบเร่ง บ้านหลังเล็กๆ กลางทุ่งแบบนี้อาจไม่หรูหรา แต่กลับเป็นที่ที่ให้ “การพักผ่อน” แบบแท้จริง ไม่ต้องแต่ง ไม่ต้องแสดง แค่นิ่งและอยู่เฉยๆ ให้ธรรมชาติดูแลคุณก็พอแล้ว
ที่อยู่: บ้านป่าบงเปียง ตำบลช่างเคิ่ง อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่
พิกัด: –
เปิดให้บริการ: ช่วงปลายกรกฎาคม – กลางพฤศจิกายน (ขึ้นอยู่กับฤดูกาลของนาขั้นบันได)
เว็บไซต์: https://www.facebook.com/groups/417100165918013/user/61550309275474/
โทร: 097-920-1095
================
ป่าสนบ้านวัดจันทร์
ป่าสนบ้านวัดจันทร์ เป็นหนึ่งในจุดที่เงียบและสงบที่สุดของเชียงใหม่ อยู่ลึกเข้าไปในอำเภอกัลยาณิวัฒนา รายล้อมด้วยภูเขา ป่าสน และอ่างเก็บน้ำ บรรยากาศเย็นสบายเกือบทั้งปี โดยเฉพาะช่วงเช้าหรือปลายฝนต้นหนาว จะมีหมอกจางๆ ลอยคลออยู่เหนือยอดสน ต้นไม้เรียงเป็นแนวสวยงามจนเหมือนฉากในหนัง ที่นี่ไม่มีร้านสะดวกซื้อ ไม่มีเสียงรถ มีแต่ธรรมชาติและอากาศที่บริสุทธิ์จนรู้สึกได้ในทุกลมหายใจ เหมาะกับการมานั่งนิ่งๆ มองฟ้า ฟังลม และปล่อยตัวให้ช้าลงแบบไม่ต้องใช้เทคโนโลยีอะไรเลย
ที่มารูป: PasonWatchan
ที่พักในป่าสนวัดจันทร์มีให้เลือกทั้งแบบบ้านพักไม้ และลานกางเต็นท์โดยองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (อ.อ.ป.) บ้านแต่ละหลังวางห่างกันพอสมควร ให้ความเป็นส่วนตัว มองออกไปเห็นวิวป่าสนและอ่างเก็บน้ำ มื้อเช้ามีข้าวต้มร้อนๆ กาแฟ และอาหารง่ายๆ ที่กินในบรรยากาศแบบธรรมชาติล้วนๆ ตอนกลางคืนอากาศเย็น บางวันอุณหภูมิลดถึงหลักสิบต้นๆ เงียบสงบ เหมาะกับการนอนฟังเสียงธรรมชาติที่แท้จริงแบบไม่ต้องเปิดเพลงกล่อม ป่าสนที่นี่ไม่ได้มีไว้แค่เดินถ่ายรูป แต่มีไว้ให้ใจได้พักจริงๆ
ที่มารูป: PasonWatchan
นอกจากต้นสนสูงเสียดฟ้า ที่นี่มีเส้นทางเดินเท้าไปชมใบเมเปิลที่เปลี่ยนสีช่วงปลายปี มีจุดชมวิวอ่างเก็บน้ำ และลานป่าสนที่แสงแดดส่องลงมาสวยทุกองศา ไม่ต้องทำกิจกรรมอะไรเยอะก็รู้สึกได้ว่าได้พัก เพราะธรรมชาติที่นี่ทำหน้าที่ของมันได้ดีอยู่แล้ว แนะนำให้มาแบบอยู่ค้างสักคืน จะได้สัมผัสความเงียบของกลางคืน และหมอกบางของยามเช้าเต็มๆ ใครที่ใช้ชีวิตรีบเร่งมาทั้งปี ป่าสนบ้านวัดจันทร์อาจไม่ได้เปลี่ยนชีวิตคุณ แต่จะเปลี่ยน “จังหวะชีวิต” ให้คุณรู้จักการอยู่เฉยๆ อย่างมีความหมายอีกครั้ง
ที่อยู่: หมู่บ้านห้วยอ้อ ตำบลบ้านจันทร์ อำเภอกัลยาณิวัฒนา จังหวัดเชียงใหม่
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/fe1EUo5WMk6AEvEs8
เปิดให้บริการ: ทุกวัน เวลา 08.00 – 22.00 น.
เว็บไซต์: https://www.facebook.com/PasonWatchan?locale=th_TH
โทร: 052 080 993
================
วัดอุโมงค์ สวนพุทธธรรม เชียงใหม่
วัดอุโมงค์ หรือชื่อเต็มว่า “วัดอุโมงค์ (สวนพุทธธรรม)” ตั้งอยู่ใกล้ถนนสุเทพ ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จุดเด่นของวัดคืออุโมงค์เก่าแก่ที่อยู่ใต้เจดีย์ เป็นอุโมงค์หินก่อโค้งตัดกันหลายทาง มีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ภายใน ทุกอย่างเงียบ สงบ และร่มรื่นแบบที่ไม่รู้สึกเลยว่าอยู่กลางเมือง บรรยากาศรอบวัดเต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่และเสียงนกร้อง เป็นที่ที่เหมาะมากสำหรับเดินช้าๆ หายใจลึกๆ และพาตัวเองออกจากความวุ่นวายสักพัก
ที่มารูป: th.wikipedia.org
ภายในวัดมีอุโมงค์ที่ขุดลึกลงไปในเนินดิน เรียงต่อกันเป็นทางเดินซับซ้อนคล้ายเขาวงกต อากาศข้างในเย็นเงียบตลอดวัน ผู้คนที่มาไม่ได้มาแค่เที่ยว แต่มาเพื่อสงบใจ เจริญสติ และขอพรแบบไม่ต้องมีเสียงดังหรือพิธีรีตอง รอบนอกอุโมงค์คือเจดีย์ทรงกลมโบราณที่สร้างทับอยู่ด้านบน เห็นได้ชัดว่าวัดนี้ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อการโชว์ แต่สร้างขึ้นเพื่อให้คนมา “อยู่กับตัวเอง” อย่างแท้จริง
ที่มารูป: th.wikipedia.org
นอกจากอุโมงค์และเจดีย์แล้ว วัดอุโมงค์ยังมี “สวนพุทธธรรม” ซึ่งเป็นพื้นที่ป่าร่มรื่นขนาดใหญ่ มีทางเดินเรียบง่าย ผ่านต้นไม้เก่าแก่ สระน้ำ และพื้นที่ให้นั่งพักตามจุดต่างๆ ในสวนมีป้ายคำสอนธรรมะกระจายอยู่ตามทาง บางข้อความอ่านแล้วก็ทำให้ต้องหยุดคิดอยู่สักพัก ที่นี่ไม่มีเสียงดังจากเมือง ไม่มีนักท่องเที่ยวถ่ายรูปเซลฟี่มากนัก เหมาะกับคนที่อยากมาอยู่เงียบๆ หรือใช้เวลาอยู่กับธรรมะแบบไม่ต้องเข้าคอร์สจริงจัง
ที่อยู่: ถ.สุเทพ ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ (ใกล้ประตูสวนดอก และ มช.)
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/gyVAaSwY1TrAhFyF7
เปิดให้บริการ: ทุกวัน 06.00 – 18.00 น.
เว็บไซต์: https://www.facebook.com/WatumongOffice
โทร: 093 278 7733
================
เก๊าไม้ล้านนา
เก๊าไม้ล้านนาไม่ใช่แค่รีสอร์ทธรรมดา แต่เป็นพื้นที่ประวัติศาสตร์ที่เคยเป็นโรงบ่มยาสูบเก่า ก่อนถูกปรับปรุงใหม่ให้กลายเป็นรีสอร์ทท่ามกลางสวนไม้ใหญ่กว่า 48 ไร่ ความพิเศษคือยังคงโครงสร้างอาคารไม้เดิมไว้ แล้วผสมกลิ่นอายล้านนาเข้ากับความคลาสสิกแบบยุโรป ทุกมุมมีต้นไม้ใหญ่ ปกคลุมด้วยไม้เลื้อยสีเขียว มองไปทางไหนก็สดชื่นและสงบใจ เป็นที่พักที่เหมาะกับคนที่อยากหนีความวุ่นวาย แล้วใช้เวลาช้าๆ อยู่กับตัวเอง พักในบรรยากาศที่ “มีชีวิต” มากกว่าการตกแต่งเพื่อโชว์
ที่มารูป: kaomailanna
หนึ่งในไฮไลต์ของเก๊าไม้ล้านนาคือ “คาเฟ่โรงบ่ม” คาเฟ่ที่รีโนเวตมาจากโรงบ่มยาสูบเก่า สถาปัตยกรรมสวยและกลมกลืนกับธรรมชาติโดยรอบ ด้านในตกแต่งเรียบๆ แต่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของกาลเวลา มีที่นั่งทั้งอินดอร์และเอาต์ดอร์ใต้ร่มไม้ใหญ่ เหมาะกับการจิบกาแฟเงียบๆ หรืออ่านหนังสือไปเรื่อยๆ เมนูมีทั้งกาแฟ เบเกอรี่ และเครื่องดื่มท้องถิ่น เช่น น้ำมะเกี๋ยงและน้ำผลไม้ปั่น รสชาติสดชื่นไม่หวานจัด มาที่นี่ไม่จำเป็นต้องถ่ายรูปเยอะ แค่นั่งเฉยๆ แล้วปล่อยใจช้าๆ ก็ได้ความสุขกลับไปแบบเต็มๆ
ที่มารูป: kaomailanna
ห้องพักของที่นี่ไม่ได้หรูเวอร์ แต่มีเสน่ห์เฉพาะตัว ทุกห้องตกแต่งด้วยของเก่าจริง เฟอร์นิเจอร์ไม้ ของตกแต่งคลาสสิก และผนังที่ยังคงกลิ่นอายเดิมของโรงบ่มไว้อย่างตั้งใจ ให้ความรู้สึกเหมือนนอนอยู่ในบ้านโบราณที่อบอุ่นมากกว่าจะเป็นโรงแรมเชิงพาณิชย์ ใครที่ชอบงานดีไซน์สไตล์ heritage หรืออินกับประวัติศาสตร์ จะยิ่งอินกับที่นี่มากขึ้น และนอกจากการพักผ่อนแบบช้าๆ ยังมีกิจกรรมเล็กๆ เช่น เดินสวน โยคะ อ่านหนังสือ หรือเดินชมอาคารแต่ละหลังในรีสอร์ท ที่เรียงรายรอบต้นไม้ใหญ่นับร้อยต้น ให้ความรู้สึกสงบและมีชีวิตในแบบที่ไม่ต้องพยายามเลย
ที่อยู่: 1 หมู่ 6 ถนนเชียงใหม่–ฮอด ต.บ้านกลาง อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ 50120
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/E6v6TYYbUAeDhRLV9
เปิดให้บริการ: 08.00 – 18.00 น.
เว็บไซต์: https://www.facebook.com/kaomailanna
โทร: 086-428-7481
================
ดอยอินทนนท์
ดอยอินทนนท์เป็นยอดดอยที่สูงที่สุดในประเทศไทย ด้วยความสูง 2,565 เมตรจากระดับน้ำทะเล ทำให้อากาศเย็นตลอดทั้งปี แม้หน้าร้อนก็ยังมีลมหนาวพัดผ่านสบายๆ ไฮไลต์แรกที่ห้ามพลาดคือ “จุดสูงสุดแดนสยาม” พร้อมป้ายเช็กอินที่ทุกคนต้องมาถ่ายภาพเป็นที่ระลึก รอบๆ เต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ มอสส์ และเฟิร์นหนาทึบ คล้ายป่าดึกดำบรรพ์ บรรยากาศร่มครึ้ม เขียวชอุ่ม เหมาะแก่การเดินเล่นแบบไม่เร่งรีบ ที่นี่เป็นมากกว่าสถานที่ท่องเที่ยวธรรมดา แต่คือแหล่งพักใจของคนเมืองที่อยากหนีความวุ่นวายขึ้นมาสูดอากาศบริสุทธิ์ให้เต็มปอด
ที่มารูป: DoiInthanonNationalPark
บนดอยอินทนนท์มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติมากมาย หนึ่งในเส้นทางยอดนิยมคือ “กิ่วแม่ปาน” ซึ่งเป็นทางเดินป่าระยะสั้นประมาณ 3 กิโลเมตร ผ่านป่าดิบเขา ทุ่งหญ้าบนสันเขา และจุดชมวิวทะเลหมอกสุดอลังการ เดินไปจะได้ยินเสียงนก เสียงลม และบางวันจะเห็นหมอกลอยคลอระดับหัวไหล่ นอกจากนี้ยังมีน้ำตกสวยๆ อย่าง “น้ำตกวชิรธาร” และ “น้ำตกสิริภูมิ” ที่ไหลตลอดปี บางจุดมีลานให้นั่งเล่นหรือถ่ายภาพ ใครที่ชอบการเดินป่าเบาๆ สัมผัสธรรมชาติใกล้มือ ต้องไม่พลาดกิจกรรมเหล่านี้ เพราะนี่แหละคือเสน่ห์ของอินทนนท์ที่กลับมากี่ครั้งก็ยังสดใหม่เสมอ
ที่มารูป: DoiInthanonNationalPark
อีกมุมของดอยอินทนนท์ที่หลายคนหลงรักคือความเป็นอยู่ของชาวเขาเผ่าม้งและกะเหรี่ยง ที่อาศัยอยู่ตามหมู่บ้านรอบดอย พวกเขาปลูกผัก ผลไม้ และกาแฟออร์แกนิกที่กลายเป็นของดีประจำท้องถิ่น นักท่องเที่ยวสามารถแวะไปที่โครงการหลวงอินทนนท์ เพื่อซื้อผักสด ดื่มกาแฟคุณภาพ หรือเดินชมแปลงดอกไม้ นอกจากนี้ยังมี “พระมหาธาตุนภเมทนีดล–นภพลภูมิสิริ” สองเจดีย์ที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางยอดดอย มีวิวพาโนรามาให้ถ่ายภาพตลอดปี ทั้งหมดนี้รวมกันเป็นดอยอินทนนท์ที่ไม่ใช่แค่สูงที่สุดของประเทศ แต่เป็นที่ที่อบอุ่นที่สุดสำหรับนักเดินทางหลายๆ คนฟ
ที่อยู่: ต.บ้านหลวง อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/LPAuQgjaMdTcUTFR8
เปิดให้บริการ: ทุกวัน 05.00 – 18.00 น.
ค่าเข้า: ผู้ใหญ่ 50 บาท / เด็ก 20 บาท (คนไทย) รถยนต์ 30 บาท / รถจักรยานยนต์ 20 บาท
เว็บไซต์: https://www.facebook.com/DoiInthanonNationalPark?locale=th_TH
โทร: –
================
สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์
สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ตั้งอยู่ที่อำเภอแม่ริม ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ประมาณ 40 นาที ที่นี่เป็นพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่กว่า 6,000 ไร่ ท่ามกลางภูเขาและอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี แค่ขับรถผ่านซุ้มประตูเข้ามาก็สัมผัสได้ถึงความร่มรื่น ที่นี่แบ่งโซนหลากหลาย ทั้งสวนไม้ดอกไม้ประดับ สวนป่าไม้ท้องถิ่น และแปลงทดลองพืช เหมาะกับทั้งสายธรรมชาติ สายถ่ายภาพ และสายครอบครัว ใครอยากหาที่เดินเล่นพักใจท่ามกลางต้นไม้ใหญ่ มาที่นี่ไม่ผิดหวังแน่นอน
ที่มารูป: qsbgcm
หนึ่งในไฮไลต์ของสวนนี้คือ “กลุ่มเรือนกระจก” ที่จำลองระบบนิเวศจากหลายภูมิภาคมาไว้ภายใน เช่น ป่าฝนเขตร้อน ทะเลทราย พืชกินแมลง พืชในสภาพแห้งแล้ง ฯลฯ ภายในแต่ละโดมจะมีการควบคุมอุณหภูมิให้เหมือนธรรมชาติจริง ทั้งต้นกระบองเพชรยักษ์ กล้วยไม้หายาก ไปจนถึงเฟิร์นโบราณ ทุกมุมจัดตกแต่งได้อย่างเป็นธรรมชาติ ถ่ายรูปออกมาสวยมากโดยเฉพาะตอนแดดลอดกระจกลงมา เหมาะกับการเดินชมแบบไม่รีบเร่ง ใครชอบพืชแปลกหรือธรรมชาติแนวศึกษาหาความรู้ ห้ามพลาดโซนนี้
ที่มารูป: qsbgcm
อีกจุดเด่นที่ดึงดูดผู้คนคือ “Skywalk” ทางเดินลอยฟ้าท่ามกลางต้นไม้ใหญ่ ความยาวประมาณ 400 เมตร ที่ให้มุมมองธรรมชาติจากด้านบนแบบพาโนรามา เดินได้ทั้งครอบครัวแบบปลอดภัย มีจุดพักถ่ายรูป และจุดให้เรียนรู้เรื่องพืชไม้พื้นเมือง ข้างๆ ยังมีคาเฟ่นั่งชิลริมขอบเขา มองวิวป่าสีเขียวได้แบบเต็มตา เหมาะกับมานั่งพัก หายใจลึกๆ หลังเดินมาทั้งวัน หรือจิบกาแฟแล้วนั่งเงียบๆ มองธรรมชาติ ใครชอบเดินทางแบบ slow life สถานที่นี้จะทำให้คุณรู้ว่า “เที่ยวธรรมดา แต่ได้สุขแบบลึกมาก”
ที่อยู่: 100 หมู่ 9 ต.แม่แรม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/edGw1wmisBueBMH89
เปิดให้บริการ: ทุกวัน 08.30 – 16.30 น. ผู้ใหญ่ 40 บาท / เด็ก 20 บาท รถยนต์ 100 บาท / รถจักรยานยนต์ 30 บาท
เว็บไซต์: https://www.facebook.com/qsbgcm?locale=th_TH
โทร: 053 841 234
================
บ้านผาหมอน
บ้านผาหมอนเป็นชุมชนเล็กๆ ที่ตั้งอยู่บนเส้นทางขึ้นดอยอินทนนท์ อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ บรรยากาศเงียบสงบ ล้อมรอบด้วยป่าเขาและทุ่งนาขั้นบันได ที่นี่เหมาะกับคนที่อยากพักผ่อนจริงๆ แบบไม่เร่งรีบ ไม่ต้องมีโปรแกรมแน่น แค่มานั่งมองวิวจากระเบียงโฮมสเตย์ ก็เหมือนได้เติมพลังให้ตัวเองแล้ว ไฮไลต์คือช่วงฝนปลายฝนต้นหนาว ที่ต้นข้าวเขียวชอุ่ม หมอกลอยต่ำๆ แซมแสงแดดอ่อนตอนเช้า ทำให้ทั้งหมู่บ้านดูเหมือนหลุดออกมาจากหนัง อยากหนีความวุ่นวายของเมือง ลองมานอนบ้านไม้ กินข้าวกับชาวบ้านดูสักคืน แล้วจะรู้ว่าความเรียบง่ายมันสบายใจแค่ไหน
ที่มารูป: baan.phamon
จุดเด่นของบ้านผาหมอนคือ “นาขั้นบันได” ที่ปลูกโดยชาวปกาเกอะญอ ซึ่งอาศัยอยู่ที่นี่มานานหลายชั่วอายุคน นาข้าวที่นี่ไม่ได้แค่สวย แต่ยังสะท้อนวิถีการใช้ชีวิตที่ผูกพันกับธรรมชาติอย่างแท้จริง หากมาเที่ยวช่วงปลูกหรือเก็บเกี่ยว คุณจะได้เห็นวิธีดั้งเดิมในการทำนาแบบไม่ใช้เครื่องจักร ใครชอบถ่ายรูปจะหลงรักมุมสะพานไม้กลางทุ่งที่ทอดยาวไปจนถึงขอบเขา ถ้าพักโฮมสเตย์ก็จะได้กินอาหารพื้นบ้านง่ายๆ แต่อร่อยเกินคาด เช่น แกงใบปอ ผักกูดลวกน้ำพริก หรือข้าวเหนียวร้อนๆ กับไก่ทอดสูตรชาวบ้าน อร่อยแบบบ้านๆ แต่ได้ใจ
ที่มารูป: baan.phamon
บ้านผาหมอนไม่ได้มีที่พักหรูหรา มีแค่โฮมสเตย์ไม้ไผ่เรียบง่าย มีระเบียงชมวิว บางหลังติดลำธาร บางหลังเห็นทุ่งนา บรรยากาศกลางคืนเงียบมาก เหมาะกับการนั่งมองดาวหรือจิบชาอุ่นๆ พูดคุยกับเพื่อน ช่วงเช้าจะได้ยินเสียงไก่ขัน เสียงลำธารไหล และอากาศที่เย็นแบบธรรมชาติจริงๆ ไม่ต้องพึ่งแอร์ ใครอยาก disconnect จากโลกออนไลน์ก็จะชอบมาก เพราะสัญญาณโทรศัพท์ไม่แรงเท่าเมือง ถ้าอยากมาใช้เวลาช้าๆ กับธรรมชาติ มานอนโฮมสเตย์ที่บ้านผาหมอนสักคืน รับรองกลับไปพร้อมความรู้สึกดีๆ แน่นอน
ที่อยู่: ตำบลบ้านหลวง อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/RHq3SzcDp8ZYtR1Y7
เปิดให้บริการ: ทุกวัน (แนะนำจองล่วงหน้า)
เว็บไซต์: https://www.facebook.com/baan.phamon?locale=th_TH
โทร: 092-709-6962 (ชมรมท่องเที่ยวบ้านผาหมอน)
================
น้ำตกแม่ยะ
น้ำตกแม่ยะเป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากทางขึ้นดอยอินทนนท์ ความโดดเด่นของที่นี่คือชั้นน้ำที่ลดหลั่นลงมาเป็นลานหินกว้างหลายสิบเมตร ทำให้กระแสน้ำแตกฟองขาวกระจายออกเป็นแผงเหมือนม่านน้ำขนาดใหญ่ ตัดกับสีเขียวของป่ารอบๆ ได้อย่างสวยงาม ยิ่งหน้าฝนหรือต้นหนาว น้ำจะยิ่งแรงและอลังการมาก นักท่องเที่ยวนิยมมานั่งพักใต้ต้นไม้ใหญ่ หรือถ่ายภาพจากจุดชมวิวด้านล่างที่สามารถเก็บภาพน้ำตกได้เต็มเฟรมแบบไม่มีอะไรมาบังสายตา ความพิเศษคือยังคงความเป็นธรรมชาติแบบแท้ๆ ไม่มีสิ่งปลูกสร้างมากมาย ใครชอบแนวธรรมชาติแท้ๆ ต้องแวะมา
ที่มารูป: portal.dnp.go.th
การเดินทางมาน้ำตกแม่ยะต้องเข้าจากถนนสายจอมทอง-ดอยอินทนนท์ แล้วขับรถเข้าทางแยกเล็กๆ เข้าไปอีกประมาณ 14 กิโลเมตร ถนนอาจแคบหน่อยแต่ไม่ลำบากมาก ข้างทางเป็นป่าเขียวร่มรื่น ตลอดเส้นทางคุณจะได้สัมผัสความสงบและเสียงธรรมชาติแบบไม่มีการปรุงแต่ง เหมาะมากกับคนที่อยากหลบหนีความวุ่นวาย และใช้เวลาอยู่กับธรรมชาติจริงๆ บริเวณน้ำตกมีลานกางเต็นท์สำหรับคนที่อยากค้างคืน ใกล้ชิดธรรมชาติแบบสุดๆ มีห้องน้ำและเจ้าหน้าที่ดูแลตลอด ไม่เน้นสิ่งอำนวยความสะดวกมาก แต่ได้บรรยากาศดิบๆ แบบที่หลายคนโหยหา
ที่มารูป: portal.dnp.go.th
จุดที่ดีที่สุดของน้ำตกแม่ยะคือพื้นที่รอบๆ ที่เหมาะกับการมาปิกนิกกับเพื่อนหรือครอบครัว ไม่ว่าจะปูเสื่อริมน้ำ เดินเล่นถ่ายภาพ หรือแค่ฟังเสียงน้ำตกก็รู้สึกชิลได้แบบไม่ต้องพยายาม มุมถ่ายรูปเยอะมาก โดยเฉพาะจุดที่สามารถถ่ายได้ทั้งน้ำตกกับป่าเขาในเฟรมเดียว ถ้าโชคดีช่วงเช้าหรือเย็นๆ จะมีละอองน้ำที่สะท้อนแสงแดดเป็นประกายคล้ายรุ้ง ดูละมุนแบบไม่ต้องแต่งภาพ บางคนเลือกมาเงียบๆ คนเดียวเพื่ออ่านหนังสือหรือเติมพลังใจ ใครที่ไม่เคยมาอย่ามองข้าม เพราะน้ำตกแม่ยะไม่ใช่แค่สวย แต่ยังเต็มไปด้วยพลังงานดีๆ จากธรรมชาติ
ที่อยู่: ตำบลบ้านหลวง อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/veXN3PnJWTNffQAK7
เปิดให้บริการ: ทุกวัน 08.00–17.00 น. ผู้ใหญ่ 50 บาท / เด็ก 20 บาท (ใช้บัตรเดียวกับเข้าอุทยานดอยอินทนนท์)
เว็บไซต์: https://portal.dnp.go.th/Content/nationalpark?contentId=1940
โทร: 053-286-729 (อุทยานฯ อินทนนท์)
================
วัดเจ็ดยอด
วัดเจ็ดยอด หรือชื่อเต็มว่า วัดโพธารามมหาวิหาร เป็นวัดเก่าแก่ที่มีอายุกว่า 500 ปี สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าติโลกราชแห่งราชวงศ์เม็งราย จุดเด่นของที่นี่คือ “เจดีย์เจ็ดยอด” ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากพุทธคยาในอินเดีย ลักษณะเป็นวิหารสี่เหลี่ยม มีเจดีย์เล็ก 7 ยอดอยู่ด้านบน ถือเป็นสถาปัตยกรรมที่หาไม่ได้ง่ายๆ ในไทย ความสง่างามและความแปลกของเจดีย์ ทำให้ที่นี่กลายเป็นแลนด์มาร์กสำหรับคนที่สนใจประวัติศาสตร์และศิลปกรรมแบบล้านนา ถ่ายรูปมุมไหนก็ดูขลังไปหมด
ที่มารูป: thai.tourismthailand.org
ถ้าใครกำลังหา “วัดที่เงียบและไม่พลุกพล่าน” วัดเจ็ดยอดตอบโจทย์มาก ที่นี่ไม่ใช่วัดที่เน้นพิธีกรรมใหญ่โตหรือแสงสี แต่ให้ความรู้สึกเรียบง่ายและสงบจริงๆ เหมาะกับการมาเดินชมรอบๆ นั่งพักใต้ต้นไม้ หรือแม้แต่นั่งสมาธิสั้นๆ ก็ทำได้สบายใจ ในบริเวณวัดยังมีต้นโพธิ์ใหญ่อายุนับร้อยปีที่ให้ร่มเงา บรรยากาศรอบๆ สงบแบบไม่ต้องเสริมแต่ง เหมือนตัดขาดจากความวุ่นวายของเมืองในชั่วขณะ เหมาะทั้งสายบุญและคนที่อยากรีเฟรชใจตัวเอง
ที่มารูป: lanna-arch.net
วัดเจ็ดยอดยังเป็นสถานที่สำคัญทางพุทธศาสนา เพราะเคยใช้จัด “สังคายนาพระไตรปิฎกครั้งที่ 8” เมื่อปี พ.ศ. 2020 ซึ่งเป็นเหตุการณ์ใหญ่ของโลกพุทธศาสนาในสมัยนั้น ทุกวันนี้ยังมีแผ่นหินและศิลาจารึกให้ศึกษา ใครชอบเรียนรู้เรื่องศาสนาและวัฒนธรรมสามารถมาดูของจริงได้เลย ภายในวัดยังมีพิพิธภัณฑ์เล็กๆ ที่เก็บของเก่าและข้อมูลเชิงลึกของการสังคายนาไว้อย่างน่าสนใจ เหมาะกับการพาเด็กๆ หรือคนต่างชาติมาเรียนรู้ นอกจากจะได้รูปสวยๆ แล้ว ยังได้ความรู้กลับไปเต็มๆ
ที่อยู่: ถนนซูเปอร์ไฮเวย์ เชียงใหม่–ลำปาง ตำบลช้างเผือก อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/2wwqXzkoQJFcnH3C7
เปิดให้บริการ: ทุกวัน 06.00–18.00 น.
เว็บไซต์: –
โทร: –
================
เขื่อนแม่งัด
แค่ขับรถออกจากตัวเมืองเชียงใหม่มาประมาณ 1 ชั่วโมง คุณก็จะได้เจอกับบรรยากาศเงียบสงบของ “เขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล” เขื่อนขนาดใหญ่ที่ล้อมด้วยภูเขาเขียวขจี จุดเด่นคือแพพักลอยน้ำที่เรียงรายกลางอ่างเก็บน้ำ ให้ความรู้สึกเหมือนไปทะเลสาบต่างประเทศ ไม่ว่าจะมาเป็นกลุ่มเพื่อน ครอบครัว หรือคู่รัก ก็มีมุมให้พักผ่อนแบบส่วนตัวสุดๆ ใครอยากชิลล์บนแพ ล่องเรือ พายคายัค หรือแค่นั่งดูวิวเฉยๆ ก็ได้หมด ที่นี่เหมาะมากสำหรับคนที่อยาก “หนีความวุ่นวาย” แล้วซึมซับธรรมชาติแบบเต็มปอด
ที่มารูป: maengaddam
ที่เขื่อนแม่งัดไม่ได้มีแค่ธรรมชาติสวยๆ แต่ยังมีแพร้านอาหารที่เสิร์ฟเมนูพื้นบ้านสดๆ เช่น ปลานิลทอดน้ำปลา ยำปลาช่อน ทอดมันปลากราย หรืออาหารอีสานก็มีให้เลือกเพียบ กินไปชมวิวเขื่อนไปคือความสุขแบบง่ายๆ ที่หลายคนหลงรัก และถ้าอยากพักค้างคืน ที่นี่ก็มี “แพพัก” ให้บริการหลายเจ้า ทั้งแบบเรียบง่ายหรือแบบรีสอร์ทลอยน้ำก็เลือกได้ตามใจ ราคาหลักร้อยถึงหลักพันต้นๆ แล้วแต่ความสะดวกสบาย เหมาะกับการนอนฟังเสียงน้ำ ลมเย็นๆ พัดผ่านตลอดคืน ตื่นมาเจอหมอกจางๆ บนผืนน้ำ เป็นโมเมนต์ที่หลายคนไม่มีวันลืม
ที่มารูป: maengaddam
สิ่งที่ทำให้เขื่อนแม่งัดไม่ธรรมดาคือ “กิจกรรมกลางน้ำ” ที่ไม่ต้องเหนื่อยแต่ได้วิวสวย อย่างการนั่งเรือพาเที่ยวรอบเขื่อน ชมพระอาทิตย์ตกเหนือแนวเขา หรือพายคายัคไปถ่ายรูปตามมุมเงียบๆ นอกจากนี้ ยังมีเรือหางยาวให้เช่าแบบส่วนตัว ใครอยากจัดทริปกินปิ้งย่างบนแพ ลอยกลางน้ำ ถ่ายรูปเก๋ๆ ก็ทำได้เลย ไม่ต้องออกแรงเยอะ แต่ได้ภาพและความทรงจำคุ้มสุดๆ เขื่อนแม่งัดจึงเป็นที่เที่ยวแนว “น้อยแต่มาก” ที่ไม่เคยหลุดจากลิสต์สายชิลล์ของเชียงใหม่เลย
ที่อยู่: ตำบลช่อแล อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/RWK8PZforTFaLwNo6
เปิดให้บริการ: ทุกวัน 06.00–18.00 น.
เว็บไซต์: https://www.facebook.com/maengaddam/?locale=th_TH
โทร: 053-318-308
================