ย่านบรรทัดทองไม่เคยหลับใหล โดยเฉพาะกับสายกินดึกที่รู้ดีว่าย่านนี้คือแหล่งรวมของอร่อยทุกสัญชาติ ตั้งแต่ร้านริมทางรสมือแม่ ไปจนถึงคาเฟ่เปิดไฟนวลๆ ให้นั่งชิลยันตีสอง ไม่ว่าคุณจะหิวหมูกรอบเดือดๆ บะหมี่เส้นสด หม้อไฟเดือด หรือข้าวไข่ข้นลาวา ที่นี่มีครบแบบไม่ต้องวนรถหลายรอบ ปี 2025 นี้ เราคัดมาให้เน้นๆ 15 ร้านเด็ดบรรทัดทอง ที่ไม่แค่เปิดดึก แต่รสชาติก็เด็ดตามชื่อ บางร้านคนต่อคิวไม่เคยขาด บางร้านหลบอยู่ในซอยแต่อร่อยจนอยากบอกต่อ เตรียมท้องให้ว่าง เตรียมเพื่อนให้พร้อม แล้วไปตามรอยลายแทงความอร่อยแบบจัดเต็มในย่านที่สายหิวต้องไม่พลาด
ร้านอาหารใกล้ฉัน บรรทัดทอง
1. ป้านี กุ้งแช่น้ำปลา
ถ้าคุณกำลังเลื่อนมือถือหาของกิน “ใกล้ฉัน” แล้วเจอชื่อร้าน “ป้านี กุ้งแช่น้ำปลา” แนะนำว่าอย่าเลื่อนผ่านเด็ดขาด เพราะที่นี่คือขวัญใจสายแซ่บที่แท้จริง กุ้งสดๆ แช่น้ำปลาสูตรเฉพาะ เสิร์ฟมาพร้อมน้ำจิ้มซีฟู้ดรสเดือด เผ็ดจี๊ดแต่กลมกล่อม กินแล้วตื่นเลย ที่สำคัญคือราคาไม่แรง กินได้แบบไม่รู้สึกผิด
ที่มารูป: ป้านี กุ้งแช่น้ำปลา
กุ้งแต่ละตัวคือเด้ง สด หวาน ไม่มีกลิ่นคาว น้ำปลาที่ใช้แช่ก็หอมกลิ่นกระเทียมสดๆ และพริกตำใหม่ โรยหน้าด้วยกระเทียมเจียวหอมๆ แบบไม่หวงของ สั่งมากินคู่กับข้าวสวยร้อนๆ หรือจะจิ้มแกล้มเบาๆ กับเบียร์เย็นๆ ก็ได้ฟีลคนละแบบ ยิ่งดึกคนยิ่งแน่น บางคืนต้องรอคิวกันยาว แต่มันคุ้มจริง
ที่มารูป: ป้านี กุ้งแช่น้ำปลา
ร้านนี้บรรยากาศข้างทางง่ายๆ ไม่มีห้องแอร์ แต่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ กลิ่นหอมของกุ้งน้ำปลาที่คลุ้งในอากาศ และลูกค้าประจำที่รู้จักป้านีดี ทุกจานป้าเสิร์ฟด้วยมือ จัดจ้านถึงใจไม่มีออมแรง ใครหิวดึก แวะมาแค่ครั้งเดียว รับรองติดใจจนต้องมาซ้ำ
ที่อยู่: ซอยจุฬา 5 ถนนบรรทัดทอง แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/8d8mDkwEAUKspz2u5
เปิดให้บริการ: (หยุดวันจันทร์) 18:00 – 02:00 น.
================
2. เสน่ห์ ลาบก้อย
ถ้าคุณเป็นสายอาหารอีสานตัวจริง “เสน่ห์ ลาบก้อย” คือร้านที่ห้ามพลาดเด็ดขาด ลาบก้อยที่นี่ไม่ใช่แค่อร่อย แต่ใส่ใจในวัตถุดิบและความสดใหม่ของเครื่องใน ก้อยดิบที่คลุกข้าวคั่วหอมๆ แบบพอดีคำ กินกับข้าวเหนียวร้อนๆ และผักเคียงแน่นๆ มันคือความฟินที่ไม่มีคำบรรยาย ถ้าใครหาอะไร “ใกล้ฉัน” แล้วอยากจัดเผ็ดแบบบ้านๆ นัวๆ ต้องปักหมุดร้านนี้ไว้เลย
ที่มารูป: เสน่ห์ ลาบก้อย
ไม่ได้มีดีแค่ลาบก้อย แต่เมนูอื่นๆ อย่างตับหวาน คอหมูย่าง ไส้ย่าง และน้ำตกก็เด็ดไม่แพ้กัน เครื่องปรุงถึงพริกถึงขิงจริงๆ ใครสายขม บอกได้เลยว่าแอบแรงแต่ดีต่อใจ ทุกจานเสิร์ฟมาร้อนๆ ราดน้ำแซ่บจนข้าวเหนียวหมดก่อนต้มแซบจะมา ยิ่งดึก คนยิ่งแน่น แต่รอไม่นานเพราะเขาทำไว เสิร์ฟไว อร่อยทุกจานแบบบ้านๆ แต่ฝีมือขั้นเซียน
ที่มารูป: เสน่ห์ ลาบก้อย
แรกๆ อาจจะหาไม่เจอง่าย แต่พอได้กลิ่นลาบคั่วมาแต่ไกลก็รู้เลยว่าถึงแล้ว ตัวร้านเป็นโต๊ะนั่งริมถนนง่ายๆ ไม่มีห้องแอร์ ไม่มีเมนูหรูหรา แต่ทุกจานทำด้วยใจจริงๆ จากคนที่รักในอาหารอีสานของแท้ ใครอยากแซ่บจนเหงื่อออก ขอแนะนำว่าต้องมาลอง เสน่ห์ของร้านนี้ไม่ใช่แค่รสชาติ แต่เป็นบรรยากาศที่เหมือนกลับบ้านไปกินฝีมือแม่ที่อีสานเลยก็ว่าได้
ที่อยู่: ซอยจุฬา 14 ถนนบรรทัดทอง แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/U8dRHEm1qE6oSBKJ6
เปิดให้บริการ: ทุกวัน 18:00 – 01:30 น.
================
3. HAAB ขนมไข่เตาถ่าน
ร้านตั้งอยู่ริมถนนหน้าร้าน JIM’s Burgers & Beers ซอยจุฬา 12 เริ่มตั้งเตาตั้งแต่เย็น เตาถ่านวางเรียงอยู่ด้านหน้า ขนมไข่ถูกเทใส่พิมพ์เหล็กทีละชุด รอเวลาให้ฟูจากไฟร้อน ไม่มีเสียงโฆษณา ไม่มีพนักงานเรียกลูกค้า แต่กลิ่นของขนมที่หอมไข่และเนยแบบธรรมชาติลอยมาไกล คนเดินผ่านส่วนใหญ่หยุดดูด้วยความอยากรู้ ก่อนจะยืนต่อคิวแบบไม่ได้ตั้งใจ ขนมไข่ทำชิ้นต่อชิ้น อบกันสดๆ ไม่มีเก็บค้าง กล่องกระดาษห่อเรียบๆ แต่เก็บความร้อนได้ดี ชิ้นไม่ใหญ่ กำลังพอดีคำ กรอบนอกเล็กน้อยแต่นุ่มใน กินแล้วรู้สึกถึงความตั้งใจของคนทำมากกว่าแค่ขายของหวาน
ที่มารูป: HAAB ขนมไข่เตาถ่าน
ขนมไข่ของร้านนี้ไม่มีไส้ ไม่มีสี ไม่มีลูกเล่นเพิ่ม รสชาติคือไข่กับเนยแท้ หอมแบบไม่ต้องแต่ง หวานน้อย ไม่บูด ไม่แฉะ ไม่ร่วน รสสัมผัสนุ่มแน่น มีความยืดหยุ่นในแป้งแบบที่รู้ได้ว่าใช้ของดี แม้จะไม่ได้หวือหวา แต่ทุกคำคือความพอดีที่จับต้องได้ เหมาะกับคนที่ไม่ชอบขนมหวานจัด และอยากกินของเล่นที่ทำจริง ไม่รีบเร่ง ไม่สำเร็จรูป เป็นของกินที่เหมาะจะซื้อกลับไปกินระหว่างทาง หรือซื้อฝากใครก็ได้ ไม่ต้องกลัวว่าจะเลี่ยนหรือเอาใจยาก เพราะพื้นฐานของขนมนี้คือความเรียบง่ายที่ไม่เคยเสียรส แม้จะไม่ได้ชูจุดขายแปลกใหม่ แต่กลับได้ใจคนที่ชอบของตรงไปตรงมาแบบไม่ปรุงแต่งเกินจำเป็น
ที่มารูป: HAAB ขนมไข่เตาถ่าน
ในบรรดาร้านขนมหวานเปิดดึก ย่านบรรทัดทองมีหลายร้านที่ดังจากความหวือหวา แต่นี่คือหนึ่งในไม่กี่ร้านที่เลือกจะนิ่งและมั่นคงในความธรรมดาของตัวเอง ไม่มีป้ายไฟ ไม่มีเสียงโฆษณา ไม่มีลูกเล่น แต่คนยืนรอต่อแถวทุกเย็น ความนิ่งนั่นเองที่ทำให้ร้านนี้แตกต่าง การอบด้วยเตาถ่านอย่างต่อเนื่องไม่ใช่แค่ความคลาสสิก แต่คือวิธีที่ควบคุมอุณหภูมิได้พอดีในแต่ละชุด ทำให้ขนมออกมาใกล้เคียงกันทุกชิ้น ความเสมอต้นเสมอปลายแบบนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับร้านเล็กๆ แต่ HAAB ทำได้ และไม่ต้องพูดมากให้เปลืองคำ
ที่อยู่: หน้าร้าน JIM’s Burgers & Beers ซอยจุฬา 12 ถนนบรรทัดทอง กรุงเทพฯ
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/hqM2PFT4ZjoKCqxz7
เปิดให้บริการ: จันทร์–เสาร์ 17:00–22:00 น. (หรือจนกว่าของหมด)
================
4. เจ๊โอว
บรรยากาศหน้าร้านอาจจะดูเหมือนร้านข้าวต้มทั่วไป โต๊ะเหล็ก เก้าอี้พับ แสงไฟส้มขุ่น แต่สิ่งที่ดึงคนมาไม่ใช่บรรยากาศหรือตกแต่ง แต่คือรสชาติของอาหารที่ชัดและหนักแน่น เมนูที่คนสั่งกันแทบทุกโต๊ะคือข้าวต้มรวมเครื่อง หมูกรอบ ตับ ไส้ กระเพาะ และหมูสับแน่นเต็มชาม น้ำซุปไม่หวาน ไม่ใสเกิน ไม่ข้นจัด แต่กลมกล่อมแบบตั้งใจ คนมากินเพราะรู้ว่าอาหารที่นี่ “ไม่ง่าย” ในแบบที่ดูเหมือนง่าย ทุกอย่างมีความพอดี และทำออกมาได้เสมอกันทุกคืน
ที่มารูป: เจ๊โอว
หม้อไฟที่รวมเครื่องจนล้นออกจากขอบ กลายเป็นภาพคุ้นตาสำหรับคนที่เคยผ่านหน้าเจ๊โอวในช่วง 3–4 ปีหลัง เมนู “มาม่าโอ้โห” ที่ตอนนี้ต้องโทรจองล่วงหน้าไม่ใช่เพราะอยากทำให้ยาก แต่เพราะคนสั่งเยอะจนของหมดไว ความพิเศษไม่ได้อยู่แค่ขนาดหรือปริมาณ แต่อยู่ที่การจัดรส น้ำซุปต้มยำเข้มพอดี เครื่องแน่นแต่ไม่เละ ไข่ลวกเป๊ะ ปูอัด หมูกรอบ ลูกชิ้น หมูสับใส่มาแบบไม่หลอกตา ถ้าได้กินตอนเดือดจัดจะเข้าใจว่าทำไมถึงมีคนยืนรอทุกคืน แม้จะไม่ใช่สายกินตามกระแสก็ยังรู้สึกว่า มันคุ้มที่จะมาลองสักครั้ง
ที่มารูป: เจ๊โอว
ถึงจะใช้คำว่าข้าวต้ม แต่เจ๊โอวไม่ใช่ร้านที่ขายแค่อาหารเบาๆ ยามดึก เพราะทุกเมนูในร้านคือของคาวที่มีความชัดเจนของรส คนที่สั่งข้าวต้มหมูสับจะได้หมูที่เด้ง มีรสในตัวเอง ไม่ต้องพึ่งน้ำจิ้ม ส่วนคนที่กินเกาเหลาหมูกรอบจะได้หมูกรอบที่ทอดมาสด ไม่ชืด ไม่เหนียว หนังบางกรอบจริง น้ำซุปซึมเข้าเนื้อแบบไม่เปื่อย ไม่มีอะไรหวือหวา แต่ก็ไม่มีจานไหนที่ทำให้รู้สึกขาดหรือหลอก เมนูไม่เยอะมาก แต่ทุกจานถูกออกแบบมาให้ “กินแล้วอิ่มพอดี” และอยากกลับมาอีก โดยไม่ต้องมีโปรโมชั่นหรืออะไรพิเศษเลย
ที่อยู่: 113 ซอยจรัสเมือง ถนนบรรทัดทอง แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/2CK27pPtGXjUT3L76
เปิดให้บริการ: ทุกวัน 17:30–01:00 น. (ครัวปิดประมาณเที่ยงคืน)
================
5. จูนปัง
ร้านอยู่แถวซอยจุฬา 11–12 เป็นรถเข็นขนาดไม่ใหญ่ แต่คนมุงต่อคิวกันตลอด เพราะกลิ่นขนมปังปิ้งที่โชยมาไม่เหมือนใคร ขนมปังหนานุ่ม ปิ้งจนผิวนอกกรอบเบาๆ แต่ข้างในยังฟู แล้วตักไส้ใส่แบบไม่กลัวต้นทุน ไส้แต่ละแบบมีความชัดเจน ไม่ใช่แค่หวานแต่น้ำตาลหรือแป้ง ทุกไส้มีรสของมันเอง มีทั้งเนยน้ำตาล นมข้น ช็อกโกแลต ฝอยทอง ชาไทย และอีกหลายแบบให้เลือกสั่งได้ตามใจ ไม่ว่าจะใส่เยิ้มๆ หรือแบบพอดีคำ
ที่มารูป: จูนปัง
แม้จะดูเป็นร้านที่เน้นความแน่นของไส้ แต่การจัดปริมาณก็ไม่ทำให้รู้สึกเลี่ยน ไส้แต่ละแบบถูกวางในขนมปังอย่างมีจังหวะ น้ำราดมีความหนืดพอดี ไม่ไหลเยิ้มเกินเหตุจนกินลำบาก ขนมปังไม่แฉะ ไม่แข็ง ไม่ขาดกลาง จับง่าย กินง่าย เป็นของหวานราคาประหยัดที่มีรายละเอียดในทุกจุด เหมาะกับการซื้อกลับบ้าน ซื้อฝาก หรือยืนกินตรงนั้นเลยก็ได้ คนที่เดินผ่านมักจะยืนมอง แล้วจบที่ต่อคิวตามไปด้วยโดยไม่รู้ตัว เพราะภาพขนมปังที่ไส้ทะลักออกมาเกือบทุกด้านมันไม่ใช่แค่ของหวาน แต่มันดึงสายตาแบบไม่ต้องพูดอะไร
ที่มารูป: จูนปัง
จูนปังไม่ใช่ร้านที่มีแคมเปญ ไม่มีโฆษณา ไม่มีคาเฟ่ ไม่มีแอร์ มีแค่รถเข็น ถุงกระดาษ และเตาปิ้ง แต่กลับเป็นร้านที่ลูกค้าประจำแน่นทุกคืน โดยเฉพาะช่วงหัวค่ำจนถึงเกือบเที่ยงคืน จุดแข็งไม่ได้อยู่ที่ทำอะไรแปลกใหม่ แต่เป็นความสม่ำเสมอของรสชาติ ขนมปังถูกปิ้งทีละชิ้นตามคิว ไม่มีรีบ ไม่มีเร่ง คนขายใส่ไส้เองทุกชิ้นและถามลูกค้าทุกคนก่อนปิดขนมปัง ว่าอยากได้เยอะแค่ไหน แบบไหน ซึ่งฟังดูธรรมดา แต่ร้านแบบนี้ไม่ได้เจอกันง่ายในยุคที่เน้นความไวเป็นหลัก
ที่อยู่: ริมถนนบรรทัดทอง ซอยจุฬา 12 (หน้าร้าน JIM’s Burgers & Beers)
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/dxyHoGt9gkm1D4Ts7
เปิดให้บริการ: ทุกวัน 18:00 – 00:00 น. (หรือจนของหมด)
================
6. วังหลวง
ร้านตั้งอยู่ริมถนนบรรทัดทอง บรรยากาศเป็นกันเอง โต๊ะเยอะ นั่งได้สบายไม่เบียด แยกเตาให้ทุกโต๊ะ ปิ้งย่างได้เต็มที่แบบไม่ต้องแย่งกัน น้ำซุปหอมกระดูก รสกลางๆ ไม่เค็มจัด เติมได้ตลอด หมูหมักเนื้อนุ่มพอดี มีทั้งสามชั้น หมูสไลซ์ ตับ ปลาดอลลี่ ไส้กรอก ปีกไก่ และของกินเล่นอย่างลูกชิ้น ปูอัด ผักสด แยกถาดเรียบร้อย น้ำจิ้มมีให้เลือก 2–3 แบบ รสจัดพอดี ไม่หวานนำ จุดเด่นคือของเติมไว พนักงานเดินดูโต๊ะตลอด ไม่ต้องเรียกซ้ำหลายรอบ
ที่มารูป: วังหลวง
วังหลวงเหมาะกับคนที่อยากกินหมูกระทะดึกๆ แบบไม่ต้องแพลนล่วงหน้า ไม่ต้องโทรจอง เพราะมีโต๊ะจำนวนมากและหมุนเวียนเร็ว เปิดตั้งแต่เย็นถึงหลังเที่ยงคืน ทำให้กลายเป็นตัวเลือกประจำของนักศึกษา พนักงานออฟฟิศ และคนทำงานรอบดึกที่หาของกินอิ่มๆ แบบร้อนๆ กลางคืน แม้จะไม่ได้ตกแต่งหรูหรา แต่ทุกอย่างถูกวางไว้อย่างเป็นระบบ สะอาดในระดับที่ไว้ใจได้ ของไม่ช้ำ ไม่เหม็น ไม่แช่นาน มีพัดลมหลายจุด ระบายควันได้ดี ไม่อับ ไม่เหม็นควันเกินไป
ที่มารูป: วังหลวง
ราคาบุฟเฟต์อยู่ที่ระดับกลาง ไม่ถูกมากแต่ก็ไม่แพงเกินไปเมื่อเทียบกับปริมาณและคุณภาพ มีของหวานอย่างไอศกรีม เครื่องดื่มรีฟิล ชาเขียว โซดา น้ำเปล่าเติมได้ครบ คนที่มากินส่วนใหญ่ไม่ได้มองหาประสบการณ์ fancy แต่ต้องการของร้อน อร่อย พื้นฐานดี และได้เยอะ ซึ่งร้านนี้ตอบโจทย์ได้ตรงๆ แบบไม่ต้องอธิบายเยอะ และเป็นเหตุผลว่าทำไมร้านถึงยังแน่นทุกคืน แม้จะไม่มีโปรแรงหรือชื่อเสียงบนโซเชียล
ที่อยู่: ริมถนนบรรทัดทอง ใกล้สามแยกเจริญเมือง (ฝั่งตรงข้ามจุฬาฯ)
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/9MyTntJhdahziTNp6
เปิดให้บริการ: 17:00 – 01:00 น.
================
7. Jeju BBQ บุฟเฟ่ต์ปิ้งย่างเกาหลี
ร้านตั้งอยู่ริมถนนบรรทัดทอง โดดเด่นด้วยป้ายไฟเกาหลีและกลิ่นหมูย่างหอมชัดตั้งแต่ยังไม่เข้าประตู ด้านในเป็นร้านห้องแอร์ นั่งสบาย โต๊ะไม่ชิดเกินไป ปิ้งย่างบนเตาถ่านไร้ควัน เมนูมีทั้งหมูสามชั้น หมูหมักซอสโคชูจัง หมูพริกไทยดำ สันคอ หมูสไลซ์ รวมถึงเนื้อวัวสำหรับคนที่เลือกแพ็กเกจสูงขึ้น เครื่องเคียงแบบเกาหลีมาเต็ม ทั้งกิมจิ ไชเท้าดอง ถั่วงอกงา และสลัดผักที่เติมได้ตลอด น้ำจิ้ม 2 แบบหลักคือซัมจังและน้ำมันงาเกลือที่เข้ากับเนื้อแบบพอดี
ที่มารูป: Jeju BBQ บุฟเฟ่ต์ปิ้งย่างเกาหลี
ร้านนี้มีราคาบุฟเฟ่ต์หลายระดับ เริ่มต้นจากชุดพื้นฐานหมูย่าง ไปจนถึงชุดเนื้อวัวและซีฟู้ด ราคาอยู่ในเรทกลาง ไม่บวกแอบแฝงตอนจ่าย และไม่มีเก็บ Vat หรือค่าบริการเพิ่ม คนที่เดินเข้าร้านโดยไม่จองล่วงหน้าในช่วงเย็นอาจต้องรอคิว แต่รอไม่นาน เพราะระบบบริการจัดการคิวไว พนักงานดูแลโต๊ะค่อนข้างทั่วถึง เติมของไว เก็บจานเร็ว คอยดูไฟใต้เตาให้เสมอ แม้ในช่วงคนแน่น อาหารแต่ละจานถูกจัดอย่างเรียบร้อย ไม่มีวางมั่ว ไม่มีของบูดเสีย
ที่มารูป: Jeju BBQ บุฟเฟ่ต์ปิ้งย่างเกาหลี
ร้าน Jeju BBQ ไม่เน้นตกแต่งแบบคาเฟ่แฟนซีหรือภาพถ่ายหวือหวา แต่ให้ความสำคัญกับรสชาติของวัตถุดิบและระบบหลังบ้านที่แน่น โต๊ะวางเตาห่างกันพอให้ลุกเดินหยิบของได้สะดวก ไม่ร้อน ไม่อึดอัด และไม่ต้องตะโกนคุย พื้นที่บุฟเฟ่ต์มีของให้เลือกชัดเจน ไม่วางซ้อนเกินจำเป็น และเก็บของหมดรอบอย่างสม่ำเสมอ เป็นร้านที่เหมาะกับทั้งกลุ่มเพื่อนและครอบครัวที่อยากกินปิ้งย่างแบบเกาหลีแท้ๆ โดยไม่ต้องจ่ายเกินความจำเป็น
ที่อยู่: 944 ถนนบรรทัดทอง แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ (ใกล้ซอยจุฬา 12)
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/WxMf8yQGARFQBzW98
เปิดให้บริการ: ทุกวัน 11:00 – 23:00 น.
================
8. ตุ้งแฉ่เตาถ่าน
ร้านตั้งอยู่ริมถนนบรรทัดทอง ตึกแถวห้องเล็ก ไม่มีการตกแต่งพิเศษ แต่กลิ่นหอมจากกระทะเตาถ่านลอยมาชัดเจนจนหยุดยืนไม่ได้ เส้นใหญ่ผัดซีอิ๊วคือจานที่ออกมาไวที่สุด ผัดแบบไม่แฉะ ไม่อมน้ำมัน ซีอิ๊วหอมติดเส้น ไม่มีรสขมไหม้ หมูหมักนุ่มพอดี ไม่หนาเกินไป ไม่เหนียว ผักคะน้าให้แบบไม่หวง จานเดียวอิ่มกำลังดี
ที่มารูป: ตุ้งแฉ่เตาถ่าน
จุดเด่นของราดหน้าร้านนี้คือแป้งข้นในปริมาณที่พอดี ไม่หนืด ไม่ใสจาง รสเค็มหวานกลมกล่อมตั้งแต่คำแรก เส้นใหญ่ผ่านเตาถ่านจริง ผัดแบบไม่ขาดตอน เส้นจึงมีความหอมแบบเฉพาะตัว กินกับน้ำราดแล้วไม่เละ น้ำราดไม่แยกชั้น เสิร์ฟร้อนๆ ทันที หมูหมักนุ่มทุกชิ้น น้ำราดไม่ต้องปรุงเพิ่มก็พอดี คนชอบราดหน้าแบบข้นจัดอาจจะรู้สึกว่ามาตรฐานพอดีเกินไป แต่สำหรับคนที่ชอบสมดุล จานนี้คือคำตอบ
ที่มารูป: ตุ้งแฉ่เตาถ่าน
ร้านไม่มีเมนูมาก แต่ทุกอย่างถูกผัดด้วยเตาถ่านแบบจานต่อจาน เสียงกระทะดังตลอด ไม่ใช่ผัดล่วงหน้า มีราดหน้า ผัดซีอิ๊ว คั่วไก่ สุกี้แห้ง และเมนูข้าวผัดบางวัน โต๊ะนั่งไม่เยอะ แต่หมุนเวียนเร็ว คนที่มามักไม่ถ่ายรูป ไม่รีวิว แต่กลับมากินซ้ำบ่อย รสชาตินิ่ง เสมอต้นเสมอปลาย ราคาไม่สูง และไม่เคยมีช่วงที่รสตก คนขายไม่พูดมาก แต่ทำเร็ว วัตถุดิบไม่หรู แต่ใช้ของที่สดและสะอาด ไม่มีของแช่นาน ไม่มีกลิ่นอับ น้ำซุปที่ให้จิบระหว่างรอร้อนจริง และซดได้สบาย
ที่อยู่: 1238 ถนนบรรทัดทอง แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ (ตรงข้ามสเตเดี้ยมวัน)
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/MWMSDgi1i1m1zUde8
เปิดให้บริการ: จันทร์–เสาร์ 10:00–21:00 น. (หยุดวันอาทิตย์)
================
9. สเต็กอาม่า สาขาบรรทัดทอง
ร้านตั้งอยู่ริมถนนบรรทัดทอง ตัวร้านขนาดเล็ก เป็นห้องแถวเปิดโล่ง ไม่ติดแอร์ โต๊ะไม่มากแต่หมุนไว เมนูหลักคือสเต็กหมู ไก่ ปลา เนื้อ พร้อมเครื่องเคียงเฟรนช์ฟรายส์ ขนมปัง และสลัด ราคาต่อจานเริ่มต้นไม่เกินร้อยแต่ให้ปริมาณเกินความคาดหวัง หมูพอร์คชอปหนาแต่ไม่เหนียว ไก่ย่างหนังกรอบ เนื้อนุ่ม น้ำเกรวี่มีให้เลือกทั้งพริกไทยดำและเห็ด รสเข้มแต่ไม่เค็มจัด เหมาะกับคนที่ชอบรสชัดโดยไม่ต้องปรุงเพิ่ม
ที่มารูป: สเต็กอาม่า สาขาบรรทัดทอง
แม้จะเป็นร้านสเต็กริมทางแต่ทุกจานมีรายละเอียด สลัดเสิร์ฟสด น้ำสลัดทำเองรสออกเปรี้ยวหวานเบา ไม่เลี่ยน ขนมปังกรอบนอกนุ่มใน เฟรนช์ฟรายส์ทอดใหม่ไม่เย็นชืด เนื้อสัตว์ปรุงด้วยเตาแผ่นร้อน ไม่ได้ใช้เครื่องอบหรือหม้อทอดลมร้อน ทำให้ได้กลิ่นไหม้เล็กๆ จากเนื้อย่างจริง อาหารแต่ละจานไม่เสิร์ฟแบบสำเร็จรูป ทำจานต่อจาน ใช้เวลานิดหน่อยแต่คุ้มรอ พนักงานไม่มาก แต่บริการสุภาพและรวดเร็วในช่วงคนไม่แน่น
ที่มารูป: สเต็กอาม่า สาขาบรรทัดทอง
เหมาะกับคนที่อยากกินอะไรจริงจังในราคาสบายๆ โดยไม่ต้องเข้าเชนร้านใหญ่ ความคุ้มอยู่ที่ปริมาณและความสม่ำเสมอ ร้านไม่มีโปรโมชั่นพิเศษ ไม่ทำตลาดหนัก แต่คนแวะมากินแล้วกลับมาอีก เพราะรสไม่เปลี่ยน วัตถุดิบสดใหม่ทุกวัน หมู ไก่ ปลา ไม่มีกลิ่น น้ำจิ้มพริกไทยดำไม่ขม น้ำสลัดไม่หวานเกิน เสิร์ฟแบบไม่ต้องตกแต่งเกินจำเป็น คนที่นั่งกินส่วนใหญ่คือคนในพื้นที่ นักเรียน นักศึกษา และคนทำงาน ที่ไม่ต้องการความหรู แต่อยากกินของร้อน รสเข้ม ในบรรยากาศไม่วุ่นวาย
ที่อยู่: ติดถนนบรรทัดทอง ใกล้ซอยจุฬา 14 (ตรงข้าม Stadium One)
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/rdRjxD2GVapXtXGr6
เปิดให้บริการ: ทุกวัน 11:00 – 21:00 น. (หยุดวันอาทิตย์)
================
10. น้ำเต้าหู้เจ๊วรรณ
ร้านตั้งอยู่ริมฟุตบาทบรรทัดทอง ช่วงค่ำคนจะต่อคิวเต็มทุกมุม เก้าอี้พลาสติกเรียงง่ายๆ ไม่มีห้องแอร์ ไม่มีเพลงเปิด แต่กลิ่นหอมของน้ำเต้าหู้ร้อนทำให้คนหยุดยืนแบบไม่ตั้งใจ เมนูหลักคือน้ำเต้าหู้ เต้าฮวย น้ำขิง และของหวานเย็นแบบไทยผสมจีน ไม่ได้เน้นขายความหลากหลาย แต่ทุกอย่างถูกเตรียมมาแบบเรียบง่ายและสะอาด รสไม่หวานจัด เต้าฮวยเนื้อนุ่มละลายในปาก น้ำขิงเผ็ดอ่อนๆ แบบค่อยๆ อุ่นขึ้นหลังกลืน ไม่มีอะไรโดด แต่เข้ากันทั้งหมดในถ้วยเดียว
ที่มารูป: น้ำเต้าหู้เจ๊วรรณ
ร้านนี้ไม่เคยเงียบ โดยเฉพาะหลังสองทุ่ม ลูกค้าหลากหลาย ทั้งนักศึกษา คนขับรถส่งของ พนักงานดึก ไปจนถึงคนที่ตั้งใจขับรถมากิน รสชาตินิ่ง วัตถุดิบสด ใหม่ทุกวัน ไม่แช่แข็ง ไม่บูด ไม่มีของเหลือเก็บ น้ำเต้าหู้ทำเอง รสถั่วชัด ไม่เจือจาง เครื่องอย่างฟักทอง ลูกเดือย ถั่วแดง ขิง เต้าหู้ทอด ทุกอย่างถูกจัดใส่ถ้วยเรียบร้อย ไม่เลอะเทอะ เมื่อต้องรอ ก็คือรอเพราะคนเยอะจริง ไม่ใช่เพราะช้า
ที่มารูป: น้ำเต้าหู้เจ๊วรรณ
แม้จะเป็นร้านริมทาง แต่จัดโต๊ะเป็นระบบ คนตักแยกจากคนเก็บโต๊ะ ไม่วางอุปกรณ์ปะปนกัน น้ำร้อน น้ำหวาน น้ำเชื่อม ทุกอย่างมีฝาปิด มีคนคอยดูแลเสมอ ไม่มีของเหลือค้างคืน รสหวานของน้ำเต้าหู้และน้ำลำไยไม่หวานโดด ไม่มีปรุงเพิ่มจากซอง รสออกมาแบบที่กินได้จริง กินได้บ่อย และไม่เบื่อ คนที่เคยกินแล้วมักแวะมาซ้ำ ไม่ใช่เพราะความตื่นเต้นใหม่ๆ แต่เพราะความคงที่ของรสชาติ และความจริงใจที่สะท้อนจากของแต่ละถ้วยที่ยกมาเสิร์ฟ
ที่อยู่: หน้าร้านเจ๊โอว ถนนบรรทัดทอง (ใกล้ซอยจุฬา 22)
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/FsZFKUsWKzu3nMTcA
เปิดให้บริการ: ทุกวัน 18:00 – 00:30 น.
================
11. มันส์แท้
ร้านตั้งอยู่ริมถนนบรรทัดทอง ช่วงหน้าซอยจุฬา 20 เป็นรถเข็นเล็กๆ แต่กลิ่นน้ำมันร้อนหอมกรอบลอยนำมาแต่ไกล ของทอดทั้งหมดถูกจัดวางในถาดแยกกันชัดเจน มีทั้งลูกชิ้น ไส้กรอก เต้าหู้ ปูอัด แหนม ไข่นกกระทา ฮอตด็อกชีส และปลาระเบิด ทุกชิ้นทอดใหม่ ไม่มีตั้งทิ้ง ไม่มีทอดซ้ำ น้ำมันดูแลดี ไม่ดำ ไม่เหม็นไหม้ เมื่อสั่ง จะหยิบของลงทอดใหม่อีกครั้ง ไม่ตักของทอดค้างคืนใส่กล่องแบบที่ร้านอื่นชอบทำ
ที่มารูป: มันส์แท้
หลังทอดเสร็จ จะนำของทั้งหมดคลุกกับน้ำยำแบบพอดี ไม่แฉะ น้ำยำปรุงสด ไม่ใช่น้ำจิ้มเปรี้ยวหวานทั่วไป กลิ่นมะนาวชัด เผ็ดจริงแต่ไม่แสบลิ้น หอมพริกตำสดและกระเทียมเจียว น้ำยำเคลือบเครื่องได้ทั่ว ไม่ไหลทิ้งก้นกล่อง รสจัดแต่ไม่โฉ่งฉ่าง ความมันของของทอดพอเจอน้ำยำแล้วกลายเป็นความสมดุลที่กินได้เรื่อยๆ มีถั่วลิสงคั่วหยาบโรยมาด้านบนให้เคี้ยวตัดรสด้วย เพิ่มสัมผัสให้ไม่จำเจ คนที่ไม่ชอบกินของทอดล้วนจะรู้สึกว่าจานนี้ไม่ได้มันเกิน ไม่เลี่ยน
ที่มารูป: มันส์แท้
ร้านเปิดช่วงเย็นไปจนถึงหลังเที่ยงคืน เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ตอบโจทย์คนหิวดึกที่ไม่อยากกินข้าว ไม่อยากกินหวาน และยังอยากได้อะไรเผ็ดๆ เค็มๆ กินเล่นแบบจริงจัง ราคาต่อชุดไม่แพงมาก เลือกวัตถุดิบได้เอง จะสั่งเป็นยำรวม ยำเจ หรือเลือกเฉพาะอย่างก็ได้ ทุกกล่องจัดแน่น ไม่มีเว้นที่ ไม่มีปล่อยชิ้นเล็กๆ แค่พอขำๆ เป็นร้านที่คนพื้นที่รู้จักกันดี ไม่ต้องอวดดีไซน์ ไม่ต้องมีโปรเด็ด แค่รักษาคุณภาพให้เท่าเดิมก็พอแล้ว
ที่อยู่: ริมถนนบรรทัดทอง หน้าซอยจุฬา 20 (ตรงข้ามโลตัสพระราม 1)
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/1Pv5GnqWwBpR4R5a9
เปิดให้บริการ: ทุกวัน 18:00 – 01:00 น.
================
12. เอ๋ ซีฟู้ด (Aey Seafoods)
ตั้งโต๊ะริมถนนบรรทัดทอง ฝั่งตรงข้ามซอยจุฬา 16 ร้านไม่มีห้องแอร์ ไม่มีเมนูหรู ไม่มีจานเซรามิกวางเรียง แต่คนต่อคิวไม่เคยขาด จุดขายคือวัตถุดิบที่เห็นชัดตรงหน้า กุ้ง ปู หอย ปลา วางเรียงในกระบะน้ำแข็งแบบไม่ซ่อน ไม่พราง กล้าดิ้นให้เห็นตั้งแต่สั่ง ทุกจานทำตามออร์เดอร์ ไม่มีปรุงค้าง สั่งแล้วย่าง ลวก เผาสดๆ เสิร์ฟร้อนหรือเย็นตามจาน เมนูพื้นฐาน เช่น กุ้งเผา ปูม้านึ่ง หอยแครงลวก ยำรวมทะเล คือจานที่คนสั่งซ้ำไม่เว้นคืน
ที่มารูป: เอ๋ ซีฟู้ด (Aey Seafoods)
ซีฟู้ดจะดีไม่ดี น้ำจิ้มบอกได้ ร้านนี้ทำพริกขี้หนูสวนตำสดใหม่ทุกวัน ปรุงให้เปรี้ยว ขม เผ็ด ชัด ไม่หวานเจือ ไม่มีรสแต่ง สีไม่เขียวจัดแต่รสแรงพอดี น้ำจิ้มซีฟู้ดไม่แค่ราด แต่คลุกกับของสดจนเข้าเนื้อ จานยำหรือซีฟู้ดลวกถึงรสโดยไม่ต้องสั่งพิเศษ น้ำยำเข้ม ใช้เครื่องเยอะแต่จัดอย่างเรียบร้อย หอยลวกไม่มีคาว ไม่สุกเกิน กุ้งเผาหอม ไม่ไหม้ ไม่ชื้น ปูม้านึ่งหวานเนื้อแน่น ไม่เปียกไม่ยุ่ย คนที่ชอบรสจัดแบบบ้านๆ จะถูกจริตมาก
ที่มารูป: เอ๋ ซีฟู้ด (Aey Seafoods)
โต๊ะนั่งอยู่ริมฟุตบาท เรียงง่ายๆ ไม่แออัด ไม่มีบริการหรู แต่จัดโต๊ะเร็ว เก็บไว เสิร์ฟทันทุกโต๊ะ ถึงจะคิวเยอะ แต่จังหวะการทำไม่มีชะงัก เมนูที่มีไม่มาก แต่แต่ละจานทำดี ไม่มีจานไหนหลุดมาตรฐาน บางคืนมีแซลมอนย่าง ปลาหมึกไข่ หรือปลากระพงเพิ่มตามวัตถุดิบ ช่วงดึกคิวยาวแต่รอได้ เพราะพนักงานขยับเร็วและดูแลครบ คนมานั่งกินที่นี่ไม่ใช่เพราะบรรยากาศ แต่เพราะซีฟู้ดสดจริง ยำรสจริง และรู้ว่าจ่ายแล้วคุ้มในทุกคำ
ที่อยู่: ริมถนนบรรทัดทอง (ตรงข้ามซอยจุฬา 16) เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/GYFkGKHmM79DExVb7
เปิดให้บริการ: 17:30 – 01:00 น.
================
13. คุณนายทะเลดอง บุฟเฟ่ต์พรีเมี่ยม
ตั้งอยู่ริมถนนบรรทัดทอง ตัวร้านเป็นห้องกระจก มีที่นั่งรองรับหลายโต๊ะ เมนูเน้นหนักไปที่อาหารทะเลดองแบบพรีเมียม เช่น กุ้งแช่น้ำปลา กุ้งดองซีอิ๊ว ปูไข่ดอง หอยนางรมสด พร้อมเครื่องเคียงครบ น้ำจิ้มแยกแบบใส่ใจ ซีฟู้ดดองไม่มีกลิ่น ไม่คาว ไม่เปียกเยิ้ม น้ำดองแต่ละชนิดปรุงชัด รสชาติเข้ม ไม่เค็มอย่างเดียว พริก กระเทียม ซอส ใช้ของคุณภาพสูง วางแยกทุกถาด ไม่มีการคลุกไว้ล่วงหน้า ความสดของวัตถุดิบคือจุดแข็งของร้าน
ที่มารูป: คุณนายทะเลดอง บุฟเฟ่ต์พรีเมี่ยม
น้ำจิ้มซีฟู้ดมีหลายแบบ ทั้งเปรี้ยวเผ็ดซีฟู้ดสูตรไทย ไปจนถึงแบบหวานกลมสไตล์เกาหลี น้ำจิ้มทำใหม่ ไม่ใช่แบบสำเร็จรูป กลิ่นพริกสดชัด ไม่มีความขม หรือกลิ่นสังเคราะห์ เครื่องเคียงอย่างสาหร่าย วาซาบิ ไข่แดงดอง ไข่กุ้ง หอมเจียว พริกทอด พร้อมให้ตักเติมได้ตลอดแบบไม่หวง ของกินเล่นเช่นยำแซลมอน ยำหอยแครง หรือซาชิมิสดก็มีให้เลือกในบางรอบ โต๊ะบุฟเฟ่ต์วางเป็นระเบียบ สะอาด เติมไว ไม่ปล่อยค้าง
ที่มารูป: คุณนายทะเลดอง บุฟเฟ่ต์พรีเมี่ยม
ราคาบุฟเฟ่ต์มีหลายระดับ เริ่มต้นแบบพื้นฐานไปจนถึงระดับพรีเมียมที่รวมซาชิมิ เนื้อย่าง และเครื่องดื่มรีฟิล ร้านให้เวลากินพอสมควร ไม่รีบไล่ ไม่เร่งเปลี่ยนโต๊ะ การบริการดูแลทั่วถึง พนักงานแนะนำดี เติมน้ำ เติมถาดไว ทุกอย่างถูกวางและคุมอุณหภูมิอย่างเหมาะสม ของสดจริงในทุกจาน ไม่มีความรู้สึกว่าเป็นของดองแช่แข็งหรือข้ามวัน เป็นร้านที่เหมาะกับคนที่อยากกินซีฟู้ดดองแบบเน้นคุณภาพ ไม่ใช่แค่ความหวือหวา
ที่อยู่: 1210 ถนนบรรทัดทอง แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/cvNi3XgY3hb5LbMu5
เปิดให้บริการ: ทุกวัน 12:00 – 23:00 น.
================
14. CQK Mala Hotpot
ร้านตั้งอยู่ริมถนนบรรทัดทอง ใกล้แยกจุฬา 20 ลักษณะคล้ายร้านหม้อไฟสไตล์จีนแบบต้นตำรับ เดินเข้าร้านจะเจอตู้แช่เรียงยาวให้เลือกของได้เองทุกอย่าง มีทั้งเนื้อ หมู ลูกชิ้น ผัก เห็ด เต้าหู้ เส้นต่างๆ และของกินเล่นที่วางแยกเป็นถาดใส สะอาดและเติมของเรื่อยๆ เมนูทั้งหมดคิดราคาตามน้ำหนัก หยิบแล้วใส่ถาดชั่งก่อนต้ม จ่ายตามจริง ไม่มีขั้นต่ำ ไม่จำกัดว่าต้องเลือกกี่อย่าง จุดเด่นคือความยืดหยุ่น และความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับคุณภาพของวัตถุดิบ
ที่มารูป: CQK Mala Hotpot
น้ำซุปมีให้เลือกหลายแบบ เช่น ซุปหมาล่า ซุปกระดูกหมู ซุปมะเขือเทศ และซุปเห็ดหอม สามารถสั่งแบบแยกช่องหม้อได้ น้ำซุปหมาล่าเป็นสูตรเข้มข้น กลิ่นเครื่องเทศจีนชัด แต่ปรับระดับความเผ็ดได้ตามใจ รสไม่แสบลิ้นแต่เผ็ดร้อนจากพริกหม่าล่าและพริกไทยจีน น้ำซุปกลมกล่อม ไม่เค็มนำ ต้มเนื้อหรือลูกชิ้นแล้วไม่เสียรส ส่วนซอสสำหรับจิ้มมีทั้งน้ำจิ้มหมาล่าแบบงา น้ำจิ้มสุกี้แบบไทย และน้ำมันพริกตำสด เลือกผสมได้เองตามมุมปรุงที่มีเครื่องครบ
ที่มารูป: CQK Mala Hotpot
ที่นั่งในร้านมีทั้งแบบโต๊ะเดี่ยวและโต๊ะกลุ่ม มีหม้อส่วนตัวสำหรับคนที่อยากกินเงียบๆ หรือแชร์หม้อกลางสำหรับมากันหลายคน ร้านติดแอร์เย็น ไม่อับ ไม่เหม็นควัน พนักงานคอยเติมน้ำซุปและดูแลโต๊ะตลอดเวลา การคิดเงินแม่น ไม่มีเก็บซ้ำ ไม่มีบวกเพิ่มแบบไม่แจ้งล่วงหน้า สายหมาล่าที่เบื่อบุฟเฟ่ต์แบบเดิมๆ หรือคนที่อยากกินหม้อไฟแต่ไม่อยากจ่ายแพง จะเหมาะกับที่นี่มาก เพราะเลือกกินได้พอดี ไม่เหลือ ไม่ขาด
ที่อยู่: 1152 ถนนบรรทัดทอง แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/T5NeJ7UAtVQh1pRp7
เปิดให้บริการ: ทุกวัน 11:00 – 01:00 น.
================
15. ข้าวต้มสันติภาพ
ตั้งอยู่ริมถนนบรรทัดทอง ใกล้แยกเจริญเมือง ตัวร้านเปิดโล่ง โต๊ะเยอะ ขายทุกคืนแบบไม่เว้นวัน คนแน่นตั้งแต่สามทุ่มไปจนดึก ที่นี่ไม่ได้เน้นโชว์ แต่ทุกเมนูร้อน สด และทำใหม่ทุกจาน ข้าวต้มเป็นแบบเม็ดบาน ไม่เละ ไม่แข็ง น้ำซุปกลมกล่อม เสิร์ฟคู่กับกับข้าวหลากหลายทั้งต้ม ผัด ทอด เช่น ไข่เยี่ยวม้ากระเพรากรอบ ยำกุนเชียง ผัดหนำเลี๊ยบหมูสับ หรือเต้าหู้ทรงเครื่อง จานไม่ใหญ่ แต่รสจัดจ้าน กินเปล่าหรือราดข้าวต้มก็พอดีทุกอย่าง
ที่มารูป: ข้าวต้มสันติภาพ
เมนูผัดผักของที่นี่ไม่ใช่แค่ตักผ่านๆ ใส่น้ำมันหอยแล้วเสิร์ฟ แต่ผัดจริง ใช้ไฟแรง ทำจานต่อจาน วัตถุดิบสด ไม่เปียก น้ำไม่เจิ่ง รสชัดแบบไม่เค็มหรือมันเกินไป ส่วนหมูกรอบ ผัดพริกเกลือ ผัดพริกเผา หรือพวกปลาดุกฟู ล้วนใช้ของใหม่ ไม่ทอดซ้ำ ไม่แข็ง ไม่เหม็นน้ำมันเก่า น้ำซุปที่ใช้ต้มจืดก็หอมกระดูก ไม่จืดลอย กลมกล่อมโดยไม่ต้องเติมเครื่องปรุงเพิ่ม คนที่กินรอบดึกแต่ยังอยากได้รสอาหารจริงจังจะเข้าใจว่าร้านนี้มีจุดยืนชัด
ที่มารูป: ข้าวต้มสันติภาพ
ลูกค้าของร้านนี้มีทุกกลุ่ม ทั้งนักเรียน นักศึกษา พนักงาน คนทำงานกลางคืน และคนขับรถผ่านช่วงดึก ทุกคนเข้ามากินเพราะรู้ว่าร้านนี้รสไม่ตก บริการเร็ว ของไว สั่งแล้วได้ไม่เกิน 10 นาทีแม้จะโต๊ะเต็ม พนักงานขยับไว เสิร์ฟทัน ไม่หลง ไม่ผิดบ่อย ราคาเป็นมิตร จ่ายง่าย ไม่บวกเกินจริง คนที่มากินบ่อยจะมีเมนูประจำที่สั่งซ้ำเพราะรู้ว่าเสถียร และนั่นคือสิ่งที่ทำให้ร้านนี้กลายเป็นหนึ่งในข้าวต้มรอบดึกที่คนบรรทัดทองไว้ใจได้ทุกคืน
ที่อยู่: ถนนบรรทัดทอง (ติดแยกเจริญเมือง ตรงข้ามสนามกีฬาแห่งชาติ)
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/DAYVERZiUpQ3do4X6
เปิดให้บริการ: ทุกวัน 17:00 – 03:00 น.
================